เมนูนำทาง
SMEs Project โครงการย่อย 6 โครงการโครงการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม(Role Model) ดำเนินการสร้างต้นแบบการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมทั้งระบบ ได้แก่
อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์โครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะ SMEs 5 ภูมิภาคและรายสาขา (Incubation Center) จากหลักการและเหตุผล ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมอบหมายให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในฐานะผู้แทน ภาคเอกชน และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในฐานะผู้แทนภาครัฐ ร่วมมือจัดทำโครงการเพื่อยกระดับทักษะความสามารถ ของผู้ประกอบการโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้และขีดความสามารถแก่ผู้ประกอบการให้มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังขาดพื้นฐานความรู้ ด้านการผลิต การตลาด เทคโนโลยี การลดต้นทุน ความพร้อมและทักษะที่เพียงพอสำหรับการ วางแผนการจัดการพัฒนาธุรกิจรวมถึงการขาดเครือข่ายธุรกิจที่จำเป็นต่อการเริ่มธุรกิจใหม่ และเงินทุนที่เพียงพอต่อการเริ่มต้นกิจการ ซึ่งผู้ ประกอบการเหล่านี้กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ในการนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้พิจารณาทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อขยายการ ให้บริการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ กระจายไปทั่วถึงในทุกภูมิภาคของประเทศโดยเน้นให้ภาคเอกชน คือ สมาชิกสภาอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วม ในการกำหนดหลักสูตร กลุ่มเป้าหมายและดูแลรูปแบบการบ่มเพาะให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อย่างแท้จริง ทั้งนี้เนื่องจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดพัฒนาเสริมสร้างผู้ประกอบการเดิม และสร้างแรง บันดาลใจให้เกิดความต้องการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งผลจากการจัดทำโครงการนี้ จะสามารถดำเนินการเสริมสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการที่สมบูรณ์แบบ โดยการสนับสนุนและให้บริการที่จำเป็นในการริเริ่มธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการอย่างแท้จริง โดยมีวัตถุประสงค์
โครงการนี้ได้จัดหลักสูตรอบรมและกิจกรรมโดยเน้นให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อการยกระดับความรู้ความสามารถ ของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในทุกภูมิภาค โดยได้คัดเลือกผู้ประกอบการ 75 รายเข้าร่วมโครงการศูนย์บ่มเพาะ เป็นจำนวนมากกว่า 5,000 ชั่วโมง
โครงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) มาจากแนวคิดของการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องยั่งยืน ซึ่งภายใต้กระแส โลกาภิวัฒน์ที่ส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านการค้าการลงทุนที่รุนแรงทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs จำเป็นต้องดำเนิน กลยุทธ์การค้าการลงทุนในเชิงรุกและสามารถเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งการส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางการตลาด เพื่อกระตุ้นและสร้าง Demand มารองรับผลผลิตของอุตสาหกรรม ตลอดจนการหาตลาดเป้าหมายใหม่ๆ และพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่างเหมาะสม เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ การส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงของ Supply Chain and Industrial Clusters ยังเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs
โครงการนี้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม 4 ด้าน ประกอบด้วย
ดังนั้น การปรับตัวของ SMES ไทยท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์เพื่อช่วงชิงโอกาสในการขยายการลงทุนในและต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันด้วยการมีต้นทุนที่ต่ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์
โครงการนี้ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเชื่อมโยงอุตสาหกรรมให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยส่งเสริมผู้ซื้อพบผู้ขาย เพื่อสร้างพันธมิตร พัฒนาสินค้า เปิดตลาด ยกระดับ SMEs ผ่านกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจและจัดงานแสดงสินค้า มากมายทั้งในประเทศทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ในต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเวียดนาม
โครงการกองทุนฟื้นฟูสภาพเครื่องจักร (Machine Fund) มาจากหลักการและเหตุผล เครื่องจักรเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ การที่ราคาเครื่องจักรมีมูลค่าสูงมาก โดยเฉพาะเครื่องจักรที่มี เทคโนโลยีสูง จึงส่งผลกระทบต่อการลงทุนและขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยและผู้ประกอบการ SMEs อย่างมาก
เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ และลดการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมได้มีโอกาสเข้าถึงเครื่องจักรที่เหมาะสมได้อย่างชัดเจน ต่อเนื่อง และบูรณาการ
ปัจจุบันประเทศไทยมีการนำเข้าเครื่องจักรอุตสาหกรรมในอัตราที่สูง ในปี 2548 มีการนำเข้าเครื่องจักรถึง 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 6.8% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของประเทศไทย และมีเครื่องจักรที่นำเข้าสะสมตลอด 20 ปี ผ่านมาจำนวน 8 หมืนล้านเครื่อง ในจำนวนนี้ 50% เป็นเครื่องจักรที่สมควรต้องปรับปรุงประสิทธิภาพเพราะมีสภาพเก่าแก่มาก
เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมได้มีโอกาสได้ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมฟื้นฟู เครื่องจักรภายในประเทศ และลดการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ จึงจัดทำโครงการ Machine Fund ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งสนับสนุน เงินทุนดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการจำนวน 50 รายที่ต้องการทุนสำหรับพัฒนาประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของเครื่องจักรให้ทันสมัย เพื่อให้ทันกับการแข่งขันด้วยการช่วยจัดหาเงินทุนดอกเบี้ยต่ำและสนับสนุนดอกเบี้ย 3%ให้กับผู้ประกอบการ SMEs เป็นระยะเวลา 5 ปี
โครงการส่งเสริมเครือข่ายระบบจัดส่งสินค้าและพัสดุ (Logistics Capacity Building )
ดำเนินโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 โครงการย่อย คือ
โครงการพัฒนาขีดความสามารถ SMEs ด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงกลุ่มเครือข่าย SMEs เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ จัดอบรมความรู้ จัดกิจกรรม และสร้างการรวมกลุ่มให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม SMEs พัฒนาการจัดการด้านโลจิสติกส์ จำนวนมากกว่า 1,400 รายโครงการ Logistics Clinicจัดตั้งศูนย์ให้บริการคำปรึกษา ให้ความรู้และแนะนำกลยุทธ์ทางด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการ SMEs และได้เข้าดำเนินการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจนสมบูรณ์ครบทั้งระบบให้กับSMEsจำนวนมากกว่า10รายโครงการพัฒนาต้นแบบ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ และเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์สำรวจและพัฒนาต้นแบบเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ พาเลท คอนเวเยอร์ แขนกล และรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย พร้อมกับการเผยแพร่ต้นแบบเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์ (Engineering Design) เพื่อสร้างเสริมประสิทธิภาพ และลดต้นทุนทางด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์ ให้กับผู้ประกอบการ SMEsไทยโครงการพัฒนารหัสสินค้าบาร์โค้ดจัดอบรมความรู้เรื่องบาร์โค้ดเบื้องต้น และการประยุกต์ใช้รหัสสินค้าบาร์โค้ดตามภูมิภาค พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนสมาชิกในระบบมาตรฐาน GS1 และจัดพิมพ์สติกเกอร์บาร์โค้ดให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 850 ราย เป็นระยะเวลา 2 ปีโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขาระดับจังหวัดและภูมิภาค (competitiveness Improvement)
ดำเนินโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 โครงการย่อย คือ
โครงการเติมเต็มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการผลิตสร้างต้นแบบผู้ประกอบการ SMEs ในแต่ละภาคอุตสาหกรรมยกระดับทักษะความสามารถของผู้ประกอบการ และเติมเต็มความสามารถในการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 44 กิจการ ครอบคลุม 37 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 7 กลุ่มจังหวัดโครงการศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรมพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศในเรื่องการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้ผู้ประกอบการ SMEs ใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิต เบื้องต้นได้ทำการรวบรวมฐานข้อมูลคลัสเตอร์ต้นแบบของกลุ่มเครื่องจักรการเกษตร กลุ่มเครื่องจักรโลหะการ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่โครงการพัฒนาคุณภาพหนังดิบภายในประเทศและพัฒนาผู้ประสานงานพัฒนาคลัสเตอร์เป็นแบบอย่างความสำเร็จในการเชื่อมโยงธุรกิจภาคอุตสาหกรรมกับภาคเกษตรกรรมโดยร่วมมือกับสถาบันคีนันและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสริมสร้างให้ SMEs เห็นความสำคัญของการรวมกลุ่มในลักษณะของเครือข่ายวิสาหกิจ ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ วิจัยพัฒนาคุณภาพหนังดิบควบคู่กับการพัฒนาบุคลากร ได้ผู้ประสานงานพัฒนาคลัสเตอร์จำนวน 28 คน เพื่อช่วยสืบทอดและขยายผลโครงการให้เกิดความต่อเนื่องเมนูนำทาง
SMEs Project โครงการย่อย 6 โครงการใกล้เคียง
SMEs Project SME (Single Molecule Experiment) SME ตีแตก Session Initiation Protocol Smelophyllum Sesamoides SM STATION Seselopsis Somesthesis Smegmaแหล่งที่มา
WikiPedia: SMEs Project http://www.smesplannet.com/ http://www.sme.go.th/ http://www.fti.or.th/